|
จีเอ็มเอ็มฟิตเนสคลับ
ตั้งอยู่บริเวณชั้น 13 ของตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี
มีพื้นที่ประมาณ 1,100 ตารางเมตร มีการตกแต่งด้วยลวดลายที่ทันสมัย
มีเครื่องออกกำลังกายนานาชนิดที่จัดไว้ตามกลุ่มต่างๆเช่น
กลุ่มที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ กลุ่มที่ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนเลือด เป็นต้น ภายในมีห้องต่างๆนอกเหนือจากเครื่องออกกำลังกาย
เช่น ห้องอบไอน้ำและซาวน่า แยกชาย-หญิง
ให้สมาชิกได้ผ่อนคลาย รองรับได้ถึง 16 คน ห้องอาบน้ำ
ได้มาตรฐานตกแต่งสวยงาม มีฟิตเนส สปา บริการนวดศีรษะ
ไหล่ หลัง และเท้า นวดไทยราชสำนัก นวดอโรม่า ขัดและพอกผิวหน้าผิวกาย
เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หลังจากการออกกำลังกาย มีห้องพักผ่อน
มีบริการออกกำลังกายตามคลาสต่างๆมากมาย เช่น คลาสปั่นจักยาน โยคะ เต้น แอโรบิก
เป็นต้น
กลุ่มเป้าหมายหลักของจีเอ็มเอ็มฟิตเนส คือ ศิลปินของบริษัทจีเอ็มเอ็ม
เพราะ ฟิตเนสแห่งนี้ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งของบริษัทที่จัดสรรเป็นสวัสดิการศิลปิน
พนักงานและเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารของบริษัท
นอกจากนั้นยังเปิดให้บริการแก่คนทั่วไปโดยการสมัครสมาชิก
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่ นิสิตนักศึกษา
ที่ทำงานหรือเรียนอยู่บริเวณใกล้เคียงโดยไม่จำกัดระดับของสมาชิกแต่ฟิตเนสนี้มีการจำกัดสมาชิก
โดยไม่ต้องการทำยอดสมาชิกให้ได้มากๆแข่งกับบริษัทอื่น
แต่เน้นรักษาคุณภาพของตนเองและรักษาสมาชิกที่มีอยู่ให้คงอยู่ต่อไป
กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการฟิตเนสนี้ส่วนใหญ่มีเป้าหมาย 2 แบบ คือ ผู้ที่ต้องการลดความอ้วนหรือน้ำหนักตัว
และผู้ที่ต้องการรักษารูปร่างและเสริมสมรรถภาพที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การประชาสัมพันธ์ของ จีเอ็มเอ็มฟิตเนสนั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การให้ศิลปินแนะนำการออกกำลังกายเผยแพร่ทางโทรทัศน์, แจกแผ่นพับโฆษณา, โฆษณาผ่านหนังสือและนิตยสารต่างๆ,มีการเดินสายโฆษณาตามงานต่างๆ
เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีการแบ่งการใช้บริการของสมาชิกออกเป็นช่วงเวลาต่างๆทั้งกลุ่มสมาชิกที่ใช้บริการทั้งวัน
หรือใช้บริการเฉพาะช่วงเช้าและเย็น ซึ่งราคาในการใช้บริการจะต่างกัน
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้สมาชิกมาใช้บริการเวลาเดียวกันมากเกินไป ทำให้มีความเป็นส่วนตัว
สมาชิกไม่ต้องรอคิวใช้เครื่องออกกำลังกาย ไม่แออัด เมื่อมีการสมัครสมาชิกแล้วจะสามารถออกกำลังกายได้ทุกคลาส
จุดเด่นของจีเอ็มเอ็มฟิตเนส
คือ 1.
การตกแต่งสถานที่ที่ทันสมัย มีลวดลายที่แปลกตาและสวยงาม
มีการใช้แสงสีของไฟหลากหลายให้บรรยากาศผ่อนคลาย 2.
ทำเลที่ตั้งของสถานที่เหมาะสม
เพราะตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองที่มีคนจำนวนมาก
ทำให้ลูกค้าเลือกมาใช้บริการเพราะใกล้กว่าที่อื่น 3.
มีศิลปินที่มีชื่อเสียงเป็นจุดขายที่สำคัญ
เพราะลูกค้าหลายคนที่เข้ามาใช้บริการเพราะต้องการมาผ่อนคลายและพบเจอกับศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ
หรือบางคนต้องการมีรูปร่างที่สวยงามอย่างศิลปินคนโปรดจึงเข้ามาใช้บริการ 4. เน้นการออกกำลังกายที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
โดยมีเทนเนอร์ที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาโดยตรง 5.
เนื่องจากเป็นฟิตเนสที่จำกัดสมาชิก ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ผ่อนคลาย สบายตา 6. มีการให้บริการที่หลากหลาย คือไม่ใช่แค่เครื่องออกกำลังกายเท่านั้น
ยังมีการเต้นแอโรบิก สเต็ปแดนซ์ สปา อบไอน้ำ
และการเต้นแบบใหม่ๆที่นำมาให้เลือกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง 7. มีการแบ่งเครื่องออกกำลังกายเป็นกลุ่มๆ ทำให้เลือกออกกำลังกายได้ตรงตามความต้องการ
8. มีเครื่องอำนวยความสะดวกและเครื่องบันเทิงต่างๆเช่น
โทรทัศน์ เพลง วีดีโอ
เพื่อให้สมาชิกได้รับความสนุกสนาน ออกกำลังกายอย่างมีความสุข
จุดด้อยของจีเอ็มเอ็มฟิตเนส
คือ 1. ไม่ใช่บริษัทที่เป็นอิสระ แต่เป็นเครือข่ายของบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่
การดำเนินงานหลายๆอย่างจึงต้องขึ้นอยู่กับบริษัทแม่เป็นส่วนใหญ่ เช่น
การรับเทนเนอร์ จะรับสมัครตามนโยบายของบริษัทและจำนวนลูกค้า
การสั่งซื้อเครื่องออกกำลังกายหรืออุปกรณ์ต่างๆไม่สามารถทำได้อย่างอิสระจะต้องผ่านการพิจารณาจากฝ่ายตีราคาของบริษัทก่อน
2. เป็นฟิตเนสใหม่ที่เปิดบริการมาเพียง 5 ปี ทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในประสบการณ์และชื่อเสียง 3. เป็นฟิตเนสที่ค่อนข้างเล็ก
ทำให้เครื่องออกกำลังกายไม่ครอบคลุมทุกส่วนในร่างกาย
ในจีเอ็มเอ็มฟิตเนสนี้มีบุคลากรทั้งหมด
10
คน ซึ่งรับเฉพาะบุคคลที่จบปริญญาตรีจากสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาเท่านั้น
บุคคลที่จะมาทำงานในด้านนี้จะต้องมีความรู้ในด้านกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาการออกกำลังกาย
ต้องมีความรู้ในเรื่องการรูปแบบการออกำลังกาย
สามารถจัดโปรแกรมการออกกำลังกายแก่ลูกค้าแต่ละคนได้ ซึ่งการแนะนำการออกกำลังกายแก่ลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไปนั้นแตกต่างจากนักกีฬา
เพราะลูกค้าที่เป็นศิลปิน ดารา มักมีเวลาน้อย ไม่มาฝึกตามนัดหมาย
เทนเนอร์จึงต้องมีวิธีจัดรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับลูกค้า
โดยใช้เวลาน้อยแต่ทำให้การออกกำลังนั้นมีประโยชน์มากที่สุด และต้องมีความรู้ด้านจิตวิทยาการกีฬา
ต้องมีการใช้จิตวิทยาสร้างแรงจูงใจให้แก่ลูกค้าให้มาออกกำลังกาย
นอกจากนั้นยังต้องมีความรู้ด้านโภชนาการ
แนะนำการรับประทานอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย
การเลือกรับประทานอาหารขณะลดน้ำหนัก เป็นต้น ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์การกีฬาจะมีแต่ความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์
สรีรวิทยา โภชนาการ ฯลฯ เพียงเท่านั้นยังไม่พอ เพราะ
เทนเนอร์ทั่วไปก็มีความรู้เรื่องเหล่านี้ในระดับใกล้เคียงกัน
จึงจำเป็นต้องมีสิ่งที่เหนือกว่าเทนเนอร์ทั่วไป เช่น ต้องสามารถนำเต้นแอโรบิกได้
นำโยคะ รำกระบี่ได้ หรือมีทักษะการพูด มีจิตวิทยา มีอารมณ์ขัน สนุกสนาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากไม่ได้เรียนมา
ก็สามารถไปเรียนรู้เพิ่มเติมได้ หรือในการออกกำลังกาย
อาจจะต้องลองออกกำลังเองบ้างเพื่อดูผลที่เกิดขึ้น
จะทำให้มีความรู้จากประสบการณ์จริง ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ยิ่งมีความรู้มากก็จะเป็นผลดีต่อการทำงานในด้านนี้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น