การศึกษาดูงาน สถานที่ CHIROMED
จากการไปศึกษาดูงานที่คลินิกไคโรเมด ซึ่งเป็นคลินิกเกี่ยวกับการบำบัด ฟื้นฟู
และรักษาความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย เช่น การปวดหลังปวดคอ
หมอนรองกระดูกเคลื่อน เป็นต้นโดยไม่ใช้การผ่าตัด กลุ่มคนที่มาใช้บริการที่นี่คือ
คนที่มีความผิดปกติด้านกล้ามเนื้อหรือกระดูก โดยเฉพาะกระดูกสันหลัง
ซึ่งจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและรักษา เหตุผลหนึ่งที่เราเลือกไปดูงานที่ไคโรเมดเพราะ ที่นี่มีการใช้กายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาผู้ป่วย
ทำให้เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์หากเราได้มาศึกษาขั้นตอนการทำงานของที่นี่
ว่าสาชาวิชาที่เรากำลังเรียนอยู่นั้นจะสามารถนำมาใช้รักษา
บำบัดหรือฟื้นฟูผู้ป่วยได้อย่างไร และเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงใด
จากการที่ได้ไปดูงานมาแล้วนั้น คุณหมอกฤษณ์ ซึ่งเป็นหมอในแผนกวิเคราะห์อาการและจัดรูปแบบการรักษาได้มาบรรยายแนะนำเกี่ยวกับไคโรเมด
แบ่งการรักษาเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ ส่วนแรก
ไคโรแพรคติกแบบผสมผสาน จะเกี่ยวกับการช่วยรักษา ฟื้นฟูร่างกายให้เป็นปกติ
รักษาอาการปวด มีโปรแกรมจัดแนวกระดูกสันหลังตามโครงสร้างร่างกายที่สมดุล
โดยส่วนนี้จะมีห้องตรวจวินิจฉัย และห้องจัดปรับโครงสร้างกระดูก
ส่วนที่สองเกี่ยวกับด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู
เป็นการฟื้นฟูสุขภาพโดยวิธีที่หลากหลายเช่น การฝังเข็ม การใช้ยา การใช้เครื่องมือ
และการออกกำลังกายจำเพาะ
และส่วนสุดท้ายจะเกี่ยวข้องกับกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา เป็นการฟื้นฟุและเพิ่มพูนสุขภาพร่างกาย
เช่น ความยืดหยุ่น การเคลื่อนไหว
โดยใช้การออกกำลังกายเพื่อพัฒนาศักยภาพของร่างกายให้ดีขึ้นเพื่อจะได้ไม่กลับมาปวดหลังหรือเจ็บป่วยอีก
ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การกีฬาโดยตรง
ในด้านความปลอดภัยของการรักษาแบบไคโรแพรคติกนั้น
คุณหมอบอกว่ามีความปลอดภัยอย่างมากสำหรับบุคคลในทุกวัย
และมีประสิทธิภาพสูงมากในการรักษาเกี่ยวกับระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
โดยข้อแตกต่างของการรักษาแบบไคโรแพรคติกและการผ่าตัดนั้นมีหลายอย่าง
และมีข้อดีและข้อเสียไม่เหมือนกัน คือ
ในด้านของความปลอดภัยไคโรแพรคติกจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัด
เพราะการผ่าตัดจะมีความเสี่ยงในเรื่องของ การเสียเลือด ความผิดพลาดต่างๆ เป็นต้น
ในเรื่องผลของการรักษา
การรักษาแบบไคโรแพรคติกอาการจะค่อยๆดีขึ้นต้องใช้เวลาและความอดทน แต่การผ่าตัดนั้นผลจะมีสองแบบคือ ดีขึ้นชัดเจน
หรือ อาการแย่ลง ส่วนผลในระยะยาวการผ่าตัดนั้น
จะต้องมีช่วงฟื้นตัวหลังผ่าตัดซึ่งอาจใช้เวลานานตั้งแต่สองสามเดือน
หรือนานกว่านั้นตามแต่อาการ ในขณะที่ไคโรแพรคติกไม่มีช่วงฟื้นตัว
แต่จะมีช่วงที่ต้องออกกำลังกาย
หรือทำกายภาพบำบัดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและทำให้อาการหายถาวร
ซึ่งถ้าทำไคโรแพรคติก คือ การปรับโครงสร้างกระดูกอย่างเดียว ไม่มีการฟื้นฟู
จะเป็นการรักษาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น และจะกลับไปเป็นซ้ำอีก
ด้านค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นจะสูงพอๆกันหรือการผ่าตัดจะสุงกว่าเล็กน้อย
และการผ่าตัดอาจจะมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตหลังการรักษา เช่น การใส่เหล็ก หรือ
อุปกรณ์รักษาไว้ในร่างกาย และข้อเสียอีกข้อของการผ่าตัดคือ
ทำให้การรักษาวิธีอื่นๆทำได้ยากขึ้น เช่น
กายภาพหรือออกกำลังกายบางอย่างไม่ได้
แพทย์จึงมักใช้การผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา
หรือจะผ่าตัดก็ต่อเมื่อรักษาอย่างอื่นไม่ได้แล้ว หรือถ้าไม่ผ่าอาจจะมีผลทำให้เสียชีวิตได้
จุดแข็งของไคโรเมดในความเห็นของข้าพเจ้า
คือ เป็นการรักษาแบบใหม่ซึ่งเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด
และปัจจุบันยังไม่ค่อยมีการรักษาแบบนี้ ไคดรเมดมีการรักษาที่หลากหลาย ทั้งนวดกดจุด
ฝังเข็ม ปรับโครงสร้างกระดูกไม่เหมือนฟิตเนสทั่วไปที่มีการเน้นการออกกำลังกายอย่างเดียว
และ มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายด้านเช่น ไคโรแพรคเตอร์ นักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ
เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือทางการแพทย์และอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทันสมัยและครบครัน
มีบรรยากาศที่เงียบสงบและค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีความเอาใจใส่ผู้ป่วยและดูแลอย่างใกล้ชิด
สิ่งที่ไคโรเมดต่างจากที่อื่นคือ ผู้ป่วยที่เข้ามารักษาที่ไคโรเมด
ไม่จำเป็นต้องรักษาแบบไคโรแพรคติกเสมอไป เพราะจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า
ผู้ป่วยคนไหนจำเป็นต้องทำ หรือคนไหนไม่ต้องทำ
หรือถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้นก็ไปรักษาแบบอื่น โดยการรักษาแบบไคโรแพลคติกเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาที่นี่
ไม่ใช่การรักษาหลัก
และนอกจากนั้นยังให้ผู้ป่วยมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการรักษาแบบไหนบ้าง
ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีความสบายใจและมีสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้รักษา
โอกาสในการพัฒนาของไคโรเมดในอนาคต
เนื่องจากเป็นการรักษาแบบใหม่ที่มีข้อดีต่างๆมากมายทำให้มีผู้สนใจเข้ามารักษามากขึ้น
อาจจะต้องมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพิ่มความหลากหลายในการรักษา
และมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยใหม่ๆเข้ามาช่วยในการรักษามากขึ้น ในอนาคตอาจจะมีผู้สนใจเข้ามารักษามากขึ้น
และอาจจะมีคลินิก หรือโรงพยาบาลเปิดการรักษาด้านนี้เพิ่มมากขึ้น
ทำให้ต้องมีความต้องการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือบุคลากรทางด้านนี้มากขึ้น
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือ นักกายภาพบำบัดเอง
ก็น่าจะมีโอกาสในการทำงานเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ดังนั้น
เมื่อมีผู้สนใจเข้ามารักษาเพิ่มมากขึ้น ทำให้การรักษาในด้านนี้มีการแพร่หลายมากขึ้น
อาจจะมีโรงพยาบาลหรือคลินิกเฉพาะทางแบบนี้เปิดใหม่เพิ่มขึ้น สถาบันสุขภาพ
หรือฟิสเนต อาจจะเพิ่มการบริการรักษาด้านนี้เพิ่มขึ้น ดังนั้น ไคโรเมดต้องมีการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับการแข่งขันที่สูงขึ้น
ควรดึงจุดแข็งในการเป็นผู้นำบริการด้านนี้มาช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ป่วยและนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยในการรักษา
มีสาขาเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
ค่าบริการในการรักษาที่เคยสูงต้องลดลงบ้าง เพราะผู้ป่วยมีทางเลือกในการรักษามากขึ้น
จุดด้อยของไคโรเมดในตอนนี้คือ
ขาดการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก หรือมีคนรู้จักน้อย
ควรจะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นตามสื่อต่างๆ
ซึ่งจะทำให้คนรู้จักและสนใจเข้ามารักษาหรือพาญาติมารักษาเพิ่มขึ้น
ในตอนนี้ส่วนใหญ่ผู้ที่มาใช้บริการที่ไคโรเมด
เป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการจ่ายค่ารักษาที่สูงได้เท่านั้น
คนธรรมดาทั่วไปส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจการรักษา และไม่มีเงินพอที่จะมาใช้บริการ ซึ่งไคโรเมดน่าจะมีการขยายการรักษาให้ทั่วถึง
เช่นมีหลายสาขาในกรุงเทพ หรือในต่างจังหวัด มีบริการผ่อนจ่ายค่ารักษา เป็นต้น
ซึ่งจะดึงดูดให้ผู้ป่วยเลือกที่จะมาใช้บริการมากขึ้น
นอกจากนี้พื้นที่ในส่วนของคลินิกไคโรเมดมีน้อยเกินไป
และเมื่อมีผู้ป่วยเข้ามารักษาเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอาจจะทำให้พื้นที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ
และในโซนการรักษาต่างๆก็มีห้องที่ใช้ทำการรักษาน้อย ถ้าผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
อาจจะต้องรอคิวนาน อีกทั้งในโซนของการออกกำลังกายและกายภาพบำบัดก็มีน้อยเช่นกัน ดังนั้นไคโรเมดควรจะมีการขยายพื้นที่หรือขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น
อาจจะทำให้เป็นศูนย์การรักษาแบบไคโรแพรคติกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ได้ นอกจากนี้ภาพลักษณ์และบรรยากาศของคลินิกไคโรเมดทำให้ดูหรูหรา
ราคาแพง เกินไป
ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าการรักษาที่นี่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงจึงไม่กล้าเข้ามาใช้บริการ
หลังจากการไปดูงานแล้ว
ทำให้ทราบว่าสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬานั้นสามารถนำไปทำงานได้หลากหลายรูปแบบ
และการทำงานในคลินิกไคโรเมดคือ การช่วยบำบัด ฟื้นฟูผู้ป่วยด้วยการออกกำลังกาย
ก็เป็นทางเลือกหนึ่งและคิดว่าน่าจะแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น